คนทำธุรกิจ…ไม่มีทางรวยได้แน่ครับ
ถ้าเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่
จนไม่เข้าใจความต้องการของลูกค้า
ถ้าเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่
จนไม่เข้าใจความต้องการของลูกค้า
ว่ากันว่าถ้าอยากเข้าใจอะไรมากขึ้นให้ลองพาตัวเองเข้าไปอยู่ในวงโคจรเหล่านั้น แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะทำได้กันสักที่ไหน จึงเป็นเหตุผลในการหาตัวเลือกอื่นเพื่อทดแทนวิธีการเหล่านั้น
เมื่อเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมเหล่านั้นไม่ได้ ก็ต้องจำลองความคิดในแบบของเรื่องที่อยากเข้าใจ เพื่อที่ว่าจะได้ลิ้มรสสัมผัสอย่างเต็มที่ และมองอะไรทะลุปรุโปร่งขึ้น
ลองคิดดูว่าถ้าทุกคนคิดแบบเดียวกัน เตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะลงมือทำอะไรสักอย่าง รู้จักปรับตัวเข้าหากัน ผลลัพธ์ไม่ว่าเรื่องอะไรก็คงจะออกมาน่าพอใจระดับหนึ่ง
แต่ปัญหาก็คือเมื่อบางคนลงมือทำสิ่งที่ต้องการโดยไม่ศึกษาว่าสิ่งนั้นมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ที่สำคัญไม่สนใจความต้องการผู้อื่น แล้วแบบนี้สิ่งนั้นจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
เมื่อเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมเหล่านั้นไม่ได้ ก็ต้องจำลองความคิดในแบบของเรื่องที่อยากเข้าใจ เพื่อที่ว่าจะได้ลิ้มรสสัมผัสอย่างเต็มที่ และมองอะไรทะลุปรุโปร่งขึ้น
ลองคิดดูว่าถ้าทุกคนคิดแบบเดียวกัน เตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะลงมือทำอะไรสักอย่าง รู้จักปรับตัวเข้าหากัน ผลลัพธ์ไม่ว่าเรื่องอะไรก็คงจะออกมาน่าพอใจระดับหนึ่ง
แต่ปัญหาก็คือเมื่อบางคนลงมือทำสิ่งที่ต้องการโดยไม่ศึกษาว่าสิ่งนั้นมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ที่สำคัญไม่สนใจความต้องการผู้อื่น แล้วแบบนี้สิ่งนั้นจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
การทำธุรกิจไม่ใช่แค่เพื่อผลกำไรหรือเพื่อสร้างชื่อเสียง แต่เหมือนการเลี้ยงเด็กสักคนหนึ่ง คุณจะเห็นเขาตั้งแต่วันที่ไม่มีอะไร เริ่มหัดเดิน เริ่มเข้าเรียน จนวันที่เขาเป็นผู้ใหญ่
เหมือนกันกับธุรกิจ ในช่วงเริ่มต้นคุณจะเห็นตั้งแต่ยังไม่มีอะไร จนเริ่มได้ที่ทำเล หาคอนเซ็ปต์และไอเดีย ซื้อของตกแต่งร้าน หาพนักงาน จัดการระบบ ไปจนถึงทำการตลาด
บางทีการมีแบบแผนที่ครบถ้วนตามสูตรสำเร็จก็เป็นเรื่องที่ดี แสดงถึงความเป็นระเบียบที่เรียบร้อย แต่ก็อย่างว่าธุรกิจไม่ใช่สักแต่จะทำตามแผนและประสบความสำเร็จเสมอ
ความแตกต่างมันอยู่ตรงที่ว่าใครเลือกที่จะปรับใช้แผนไหนให้เข้ากับแนวทางการบริหารของตัวเอง เพราะไม่อย่างนั้นถ้าทุกคนทำเหมือนกัน ก็หมายความว่าจะได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกันน่ะสิ
เหมือนกันกับธุรกิจ ในช่วงเริ่มต้นคุณจะเห็นตั้งแต่ยังไม่มีอะไร จนเริ่มได้ที่ทำเล หาคอนเซ็ปต์และไอเดีย ซื้อของตกแต่งร้าน หาพนักงาน จัดการระบบ ไปจนถึงทำการตลาด
บางทีการมีแบบแผนที่ครบถ้วนตามสูตรสำเร็จก็เป็นเรื่องที่ดี แสดงถึงความเป็นระเบียบที่เรียบร้อย แต่ก็อย่างว่าธุรกิจไม่ใช่สักแต่จะทำตามแผนและประสบความสำเร็จเสมอ
ความแตกต่างมันอยู่ตรงที่ว่าใครเลือกที่จะปรับใช้แผนไหนให้เข้ากับแนวทางการบริหารของตัวเอง เพราะไม่อย่างนั้นถ้าทุกคนทำเหมือนกัน ก็หมายความว่าจะได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกันน่ะสิ
การเลือกทำธุรกิจอาหารที่ง่ายและสะดวกต่อการบริการและการจัดการต่าง ๆ ได้อย่างดีภายในเวลาอันรวดเร็ว ก็คงเป็นการทำร้านคาเฟ่ เครื่องดื่ม ของว่างหรืออะไรทำนองนี้
รายละเอียดก็ขึ้นอยู่กับสูตรของใครว่าเป็นแบบไหน บางร้านเครื่องดื่มหวานแสบคอ หรือบางทีก็เข้มจนตาสว่าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรสนิยมของลูกค้าด้วยว่าไปในทิศทางใด
ถ้าเราลองทำธุรกิจในแบบที่ตั้งใจไว้ ทุกอย่างจะเป็นดั่งใจต้องการ รูปแบบ คอนเซ็ปต์ แนวทางทั้งหลายก็จะเป็นที่น่าพอใจแก่เราอย่างมาก ซึ่งบางร้านได้ทำแบบนี้แล้ว ปรากฏว่าผลของมันไม่ค่อยเป็นที่น่าประทับใจเท่าไหร่
เขารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ทำงานในร้านของตัวเอง เพียงแต่ทั้งการตอบรับเรื่องรายได้ ความนิยมเหล่านี้ กลับสวนทางกับความรู้สึกของเขาเอง นั่นเป็นเพราะ เขายังไม่ได้มองเห็นถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจน ถึงได้เป็นเช่นนี้
เมื่อมองแต่ตัวเองเป็นหลัก ก็จะลักษณะคล้ายกับม้าแข่ง ที่จะมองไปแต่ข้างหน้าอย่างเดียว คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ไปได้ไกล โดยไม่ได้มองรอบข้างสักนิด และไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าในขณะที่เราออกวิ่งนั้น การแข่งขันได้เริ่มไปแล้วหรือยัง
เพราะฉะนั้นทางที่จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างทันท่วงทีคือการเปลี่ยนมุมมอง พอบอกแบบนี้แล้วหลายคนต้องคิดว่ามันยากแน่นอน ไม่มีใครเปลี่ยนมุมมองได้ภายในวันเดียวหรอก
ถูกต้องแล้ว ไม่มีใครเปลี่ยนมุมมองได้ทันที แต่ถ้าเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ อีกไม่นานก็จะมีโอกาสทำได้เอง แต่ถ้าวันนี้ยังไม่เริ่ม คิดว่าเอาไว้ก่อน เวลาที่จะทำสำเร็จก็จะถูกยืดออกไปอีก
เพราะแบบนี้คงได้เวลาที่จะมองธุรกิจของตัวเองในมุมของลูกค้าดูบ้างว่ายังขาดตรงไหน และจุดบกพร่องใดที่ถูกมองข้ามไป เพียงแค่คิดความเปลี่ยนแปลงก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นแล้ว
รายละเอียดก็ขึ้นอยู่กับสูตรของใครว่าเป็นแบบไหน บางร้านเครื่องดื่มหวานแสบคอ หรือบางทีก็เข้มจนตาสว่าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรสนิยมของลูกค้าด้วยว่าไปในทิศทางใด
ถ้าเราลองทำธุรกิจในแบบที่ตั้งใจไว้ ทุกอย่างจะเป็นดั่งใจต้องการ รูปแบบ คอนเซ็ปต์ แนวทางทั้งหลายก็จะเป็นที่น่าพอใจแก่เราอย่างมาก ซึ่งบางร้านได้ทำแบบนี้แล้ว ปรากฏว่าผลของมันไม่ค่อยเป็นที่น่าประทับใจเท่าไหร่
เขารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ทำงานในร้านของตัวเอง เพียงแต่ทั้งการตอบรับเรื่องรายได้ ความนิยมเหล่านี้ กลับสวนทางกับความรู้สึกของเขาเอง นั่นเป็นเพราะ เขายังไม่ได้มองเห็นถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจน ถึงได้เป็นเช่นนี้
เมื่อมองแต่ตัวเองเป็นหลัก ก็จะลักษณะคล้ายกับม้าแข่ง ที่จะมองไปแต่ข้างหน้าอย่างเดียว คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ไปได้ไกล โดยไม่ได้มองรอบข้างสักนิด และไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าในขณะที่เราออกวิ่งนั้น การแข่งขันได้เริ่มไปแล้วหรือยัง
เพราะฉะนั้นทางที่จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างทันท่วงทีคือการเปลี่ยนมุมมอง พอบอกแบบนี้แล้วหลายคนต้องคิดว่ามันยากแน่นอน ไม่มีใครเปลี่ยนมุมมองได้ภายในวันเดียวหรอก
ถูกต้องแล้ว ไม่มีใครเปลี่ยนมุมมองได้ทันที แต่ถ้าเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ อีกไม่นานก็จะมีโอกาสทำได้เอง แต่ถ้าวันนี้ยังไม่เริ่ม คิดว่าเอาไว้ก่อน เวลาที่จะทำสำเร็จก็จะถูกยืดออกไปอีก
เพราะแบบนี้คงได้เวลาที่จะมองธุรกิจของตัวเองในมุมของลูกค้าดูบ้างว่ายังขาดตรงไหน และจุดบกพร่องใดที่ถูกมองข้ามไป เพียงแค่คิดความเปลี่ยนแปลงก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นแล้ว
สิ่งสำคัญคือต้องสละทุกอย่างออกไปก่อนทั้งอคติและความชอบส่วนตัว หรือไม่ก็ลองไปสำรวจร้านอื่นดูบ้างก็ได้ สังเกตอย่างเข้าใจ ศึกษาอย่างเป็นกลาง ดูความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ ตั้งแต่หน้าร้าน การจัดวางที่นั่ง ขนาดป้ายบอกเมนู แม้แต่ลักษณะของพนักงาน ไปจนอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ
จะรู้ได้ทันทีว่าคาเฟ่ร้านดังจะมีองค์ประกอบเหล่านั้นอย่างครบถ้วน ฉะนั้นการที่เห็นว่าร้านนี้มีคนให้การตอบรับเต็มไปหมดไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย ทุกอย่างมาจากการใส่ใจ
เคยมีคนบอกว่า ระบบธุรกิจและการบริหารที่หลักแหลม ไม่สำคัญเท่ากับการขายด้วยความเข้าใจและใส่ใจในลูกค้า การฟังคำตอบที่แท้จริงทำให้สามารถเข้าใจแรงจูงใจของคนอื่นได้ดี
ความเข้าใจจึงถูกยกมาเป็นเรื่องสำคัญ หากคิดว่าปัญหาของลูกค้าคือปัญหาของตัวเองก็จะเข้าใจและรู้วิธีการปรับเปลี่ยนแนวทางให้สอดคล้องกับคนอื่นมากขึ้น แล้วเมื่อทุกฝ่ายเข้าใจกันและกันก็จะเกื้อหนุนกันเองโดยธรรมชาติ
เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็ใช้สื่อออนไลน์มาเป็นหนึ่งในช่องทางสื่อสาร การรักษาช่องว่างของธุรกิจกับลูกค้าอันนี้ไม่ใช่เรื่องน่าห่วง หลายคนน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าควรพาตัวเองไปตรงไหน
จะรู้ได้ทันทีว่าคาเฟ่ร้านดังจะมีองค์ประกอบเหล่านั้นอย่างครบถ้วน ฉะนั้นการที่เห็นว่าร้านนี้มีคนให้การตอบรับเต็มไปหมดไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย ทุกอย่างมาจากการใส่ใจ
เคยมีคนบอกว่า ระบบธุรกิจและการบริหารที่หลักแหลม ไม่สำคัญเท่ากับการขายด้วยความเข้าใจและใส่ใจในลูกค้า การฟังคำตอบที่แท้จริงทำให้สามารถเข้าใจแรงจูงใจของคนอื่นได้ดี
ความเข้าใจจึงถูกยกมาเป็นเรื่องสำคัญ หากคิดว่าปัญหาของลูกค้าคือปัญหาของตัวเองก็จะเข้าใจและรู้วิธีการปรับเปลี่ยนแนวทางให้สอดคล้องกับคนอื่นมากขึ้น แล้วเมื่อทุกฝ่ายเข้าใจกันและกันก็จะเกื้อหนุนกันเองโดยธรรมชาติ
เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็ใช้สื่อออนไลน์มาเป็นหนึ่งในช่องทางสื่อสาร การรักษาช่องว่างของธุรกิจกับลูกค้าอันนี้ไม่ใช่เรื่องน่าห่วง หลายคนน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าควรพาตัวเองไปตรงไหน
ที่น่าห่วงกว่าคือเข้ามาแล้วจะทำอย่างไรต่อ หลายคนเข้ามาทั้งที่ไม่รู้ทำอย่างไร ได้แต่ทำตามๆเขาไปก่อน สุดท้ายก็ต้องแพ้ให้ความไม่แข็งแรงในความเข้าใจของตัวเองอยู่ดี
เมื่อทำตามคนอื่นบ่อยๆก็จะมองไม่เห็นทางของตัวเอง แล้วการพัฒนาก็ได้เลือนหายไปตามระยะเวลา ทางที่ดีต้องรู้ว่าลูกค้าคือใคร ชอบคอนเทนต์ประมาณไหน แล้วสื่อไหนที่จะทำให้พบเห็นกันได้ดีที่สุด เริ่มเรียนรู้แล้ววางรากฐานในงานของตัวเอง
หาจุดยืนให้เจอ จะทำตลก เน้นสวยงาม คอนเซ็ปต์ดูดี หรืออะไรสารพัดก็ต้องทำสิ่งนั้นเสมอ ปรับปรุงได้แต่อย่าเปลี่ยนแนว หาทางที่เจอแล้วเดินหน้า เพราะคนแน่วแน่เท่านั้นผู้ชนะ
เมื่อทุกอย่างมีแนวทางก็อย่าลืมที่จะจ้างคนดีๆ เข้ามาทำงาน เหล่ากำลังพลจะเป็นตัวสนับสนุนธุรกิจไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โลกไม่ได้ต้องการคนที่เหมือนกันเสมอ บางทีโลกก็ต้องการคนที่แตกต่างบ้าง นำความแตกต่างเหล่านั้นมาใส่ในธุรกิจของคุณอย่างพอดี แล้วจะมีเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้นอีกมาก
สุดท้ายเมื่อสำรวจตนเองแล้วรู้สึกว่าเรารู้ทุกอย่าง มีทุกอย่างดีพร้อมแล้ว ก็นำเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างพอดีกับธุรกิจของเรา ไม่มากจนล้นและไม่น้อยจนขาด
ความพอดีคือสิ่งที่ยากในการทำธุรกิจ เพราะบรรทัดฐานแต่ละคนต่างกัน เพราะฉะนั้น หาความพอดีของตัวเองให้เจอ ไม่ต้องเร็วที่สุดก็ได้ แต่ต้องลงตัวที่สุด ปรับตัวเสมอกับทุกสถานการณ์ เพราะความแน่นอนอย่างไรเสียก็คือความไม่แน่นอน
เมื่อทำตามคนอื่นบ่อยๆก็จะมองไม่เห็นทางของตัวเอง แล้วการพัฒนาก็ได้เลือนหายไปตามระยะเวลา ทางที่ดีต้องรู้ว่าลูกค้าคือใคร ชอบคอนเทนต์ประมาณไหน แล้วสื่อไหนที่จะทำให้พบเห็นกันได้ดีที่สุด เริ่มเรียนรู้แล้ววางรากฐานในงานของตัวเอง
หาจุดยืนให้เจอ จะทำตลก เน้นสวยงาม คอนเซ็ปต์ดูดี หรืออะไรสารพัดก็ต้องทำสิ่งนั้นเสมอ ปรับปรุงได้แต่อย่าเปลี่ยนแนว หาทางที่เจอแล้วเดินหน้า เพราะคนแน่วแน่เท่านั้นผู้ชนะ
เมื่อทุกอย่างมีแนวทางก็อย่าลืมที่จะจ้างคนดีๆ เข้ามาทำงาน เหล่ากำลังพลจะเป็นตัวสนับสนุนธุรกิจไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โลกไม่ได้ต้องการคนที่เหมือนกันเสมอ บางทีโลกก็ต้องการคนที่แตกต่างบ้าง นำความแตกต่างเหล่านั้นมาใส่ในธุรกิจของคุณอย่างพอดี แล้วจะมีเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้นอีกมาก
สุดท้ายเมื่อสำรวจตนเองแล้วรู้สึกว่าเรารู้ทุกอย่าง มีทุกอย่างดีพร้อมแล้ว ก็นำเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างพอดีกับธุรกิจของเรา ไม่มากจนล้นและไม่น้อยจนขาด
ความพอดีคือสิ่งที่ยากในการทำธุรกิจ เพราะบรรทัดฐานแต่ละคนต่างกัน เพราะฉะนั้น หาความพอดีของตัวเองให้เจอ ไม่ต้องเร็วที่สุดก็ได้ แต่ต้องลงตัวที่สุด ปรับตัวเสมอกับทุกสถานการณ์ เพราะความแน่นอนอย่างไรเสียก็คือความไม่แน่นอน
แล้วหวังว่าความพอดีจะเกิดขึ้นกับธุรกิจของทุกคน