อยากมีอิสรภาพทางการเงิน
ไม่ว่าอาชีพไหน…ก็ต้องรู้วิธีบริหารเงินให้ดี
ไม่ว่าอาชีพไหน…ก็ต้องรู้วิธีบริหารเงินให้ดี
เมื่อถึงวัยทำงาน การบริหารเงินเป็นสิ่งท้าทายเสมอ เพราะในบางครั้ง เราไม่สามารถควบคุมการใช้เงินของตัวเองได้
ถึงเวลาหนึ่ง เมื่อเป็นมนุษย์เงินเดือน เราต้องมีค่าใช้จ่ายมากมาย บิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าห้องและอีกหลาย ๆ อย่างที่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิต
จนสุดท้าย อาจเหลือเงินเพียงน้อยนิดเพื่อให้เราอยู่รอดไปในแต่ละเดือน มิหนำซ้ำ งานในแต่ละเดือนก็อาจมากเกินไปจนทำให้กดดันชีวิตมากขึ้นไปอีก
ถ้าถามว่าปัญหาเกิดจากอะไร? มันอาจเกิดขึ้นจากกลไกในประเทศที่ค่าครองชีพสูงแต่รายได้ต่ำ เมื่อทั้งสองอย่างนี้วิ่งสวนทางกัน ผลกระทบมันจะตกมาอยู่ที่เรา
แต่ปัญหานี้ก็อาจเกิดขึ้นจากตัวเราร่วมด้วย เมื่อการเป็นมนุษย์เงินเดือนที่เงินออกทุกสิ้นเดือน เป็นธรรมดาที่จะต้องเอาไปใช้จ่ายสนองความต้องการตัวเองบ้าง แต่การสนองความต้องการที่มากเกินไปก็อาจทำให้เราลืมตัว ว่าจริง ๆ แล้วเราก็มีค่าใช้จ่ายมหาศาลที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน
ถึงเวลาหนึ่ง เมื่อเป็นมนุษย์เงินเดือน เราต้องมีค่าใช้จ่ายมากมาย บิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าห้องและอีกหลาย ๆ อย่างที่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิต
จนสุดท้าย อาจเหลือเงินเพียงน้อยนิดเพื่อให้เราอยู่รอดไปในแต่ละเดือน มิหนำซ้ำ งานในแต่ละเดือนก็อาจมากเกินไปจนทำให้กดดันชีวิตมากขึ้นไปอีก
ถ้าถามว่าปัญหาเกิดจากอะไร? มันอาจเกิดขึ้นจากกลไกในประเทศที่ค่าครองชีพสูงแต่รายได้ต่ำ เมื่อทั้งสองอย่างนี้วิ่งสวนทางกัน ผลกระทบมันจะตกมาอยู่ที่เรา
แต่ปัญหานี้ก็อาจเกิดขึ้นจากตัวเราร่วมด้วย เมื่อการเป็นมนุษย์เงินเดือนที่เงินออกทุกสิ้นเดือน เป็นธรรมดาที่จะต้องเอาไปใช้จ่ายสนองความต้องการตัวเองบ้าง แต่การสนองความต้องการที่มากเกินไปก็อาจทำให้เราลืมตัว ว่าจริง ๆ แล้วเราก็มีค่าใช้จ่ายมหาศาลที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน
การบริหารเงินให้ดีจึงเป็นเรื่องท้าทาย เพราะฉะนั้น กฎของการเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องเรียนรู้ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน
หากถามว่า “จะทำได้ยังไง เงินเดือนเท่านี้ ค่านั่นค่านี่มากมาย เหลือเงินไม่ถึง 2,000 ต่อเดือน” คำตอบง่าย ๆ คงแค่บอกว่าให้อดทนไปก่อน เมื่อประสบการณ์มากขึ้น เงินก็มากขึ้นเอง
แต่จริง ๆ แล้ว ยิ่งมีเงินเยอะขึ้น ก็ยิ่งใช้มากขึ้นเป็นธรรมดา แสดงให้เห็นว่า ต่อให้เรามีเงินมากเท่าไหร่ เงินที่ได้มามันก็จะหมดอยู่ดี ถ้าหากเราไม่สนใจกฎของการบริหารเงินอย่างถูกวิธี
คนที่ประสบความสำเร็จทางการเงิน พวกเขาเข้าใจการใช้เงินของตัวเองอย่างดี เพราะเขาใช้เวลาไปกับการเรียนรู้การบริหารเงิน
หากเราอยากเป็นคนหนึ่งที่อยากมีอิสระทางการเงินมากกว่าปัจจุบัน แน่นอนว่าจุดหมายยังอยู่ไกลนัก แต่ก่อนอื่นเลย เรามาเรียนรู้กฎ 6 ข้อนี้ก่อนว่า จะทำอย่างไร ถ้าไม่อยากถังแตก
หากถามว่า “จะทำได้ยังไง เงินเดือนเท่านี้ ค่านั่นค่านี่มากมาย เหลือเงินไม่ถึง 2,000 ต่อเดือน” คำตอบง่าย ๆ คงแค่บอกว่าให้อดทนไปก่อน เมื่อประสบการณ์มากขึ้น เงินก็มากขึ้นเอง
แต่จริง ๆ แล้ว ยิ่งมีเงินเยอะขึ้น ก็ยิ่งใช้มากขึ้นเป็นธรรมดา แสดงให้เห็นว่า ต่อให้เรามีเงินมากเท่าไหร่ เงินที่ได้มามันก็จะหมดอยู่ดี ถ้าหากเราไม่สนใจกฎของการบริหารเงินอย่างถูกวิธี
คนที่ประสบความสำเร็จทางการเงิน พวกเขาเข้าใจการใช้เงินของตัวเองอย่างดี เพราะเขาใช้เวลาไปกับการเรียนรู้การบริหารเงิน
หากเราอยากเป็นคนหนึ่งที่อยากมีอิสระทางการเงินมากกว่าปัจจุบัน แน่นอนว่าจุดหมายยังอยู่ไกลนัก แต่ก่อนอื่นเลย เรามาเรียนรู้กฎ 6 ข้อนี้ก่อนว่า จะทำอย่างไร ถ้าไม่อยากถังแตก
1. ประเมินสถานการณ์ตัวเองก่อน
หลายคนมีภาพหลอนที่ว่าสภาพการเงินของเราค่อนข้างมั่นคง มันเป็นเพราะว่าเราไม่ได้ประเมินสถานการณ์การเงินของตัวเองเลย ก่อนที่จะมีอิสระทางการเงิน เราต้องรู้ก่อน ว่าเราอยู่ในจุด ๆ ไหน ก่อนที่เราจะสร้างแผนเพื่อก้าวไปยังจุดถัดไป
ใช้เวลาคำนวณรายได้และสิ่งที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน หากไม่ติดลบ แสดงว่ามันไม่แย่ หากมีหนี้ หาแผนกำจัดหนี้ให้ได้ก่อน แน่นอนว่ามันไม่ง่าย เพียงแต่ต้องใช้เวลาและความมุ่งมั่น เพื่อทำให้แผนสำเร็จ
ใช้เวลาคำนวณรายได้และสิ่งที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน หากไม่ติดลบ แสดงว่ามันไม่แย่ หากมีหนี้ หาแผนกำจัดหนี้ให้ได้ก่อน แน่นอนว่ามันไม่ง่าย เพียงแต่ต้องใช้เวลาและความมุ่งมั่น เพื่อทำให้แผนสำเร็จ
2. ประมาณการและจัดการทุกอย่าง
เมื่อเป็นมนุษย์เงินเดือน เงินเดือนจึงเป็นฐานหลักของเราในแต่ละเดือน เพราะฉะนั้น เราต้องประมาณการเงินของเราให้ดี จดรายรับและค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนไว้ หรือไม่ก็ใช้ Excel ไปเลย
“หากมีการประมาณการ ทุกอย่างจะจัดการอย่างเรียบร้อย” เราต้องรู้ ว่าแหล่งที่มาและที่ไปของเงินเรามาจากไหนและไปจบที่ไหน เมื่อเราเก็บข้อมูลได้มากขึ้น เราจะรู้ ว่าอะไรควรจ่ายและอะไรไม่ควรจ่าย
“หากมีการประมาณการ ทุกอย่างจะจัดการอย่างเรียบร้อย” เราต้องรู้ ว่าแหล่งที่มาและที่ไปของเงินเรามาจากไหนและไปจบที่ไหน เมื่อเราเก็บข้อมูลได้มากขึ้น เราจะรู้ ว่าอะไรควรจ่ายและอะไรไม่ควรจ่าย
3. มีเหตุผลเสมอเมื่อต้องใช้จ่าย
“เวลาที่แย่ที่สุดเมื่อไปช้อปปิ้ง คือเวลาที่เราหิว” มันเป็นเพราะความรู้สึกคือแรงผลักดันหลักมากกว่าเหตุผล
ความรู้สึกสามารถนำพาเราไปสู่รายจ่ายที่มากเกินไปได้ โดยเฉพาะเวลาเงินเดือนออก เราจะใช้จ่ายตามอารมณ์มากกว่าเหตุผล
วิธีการง่าย ๆ คงเป็นการอดกลั้นความรู้สึกของตัวเอง ลองใช้เหตุผลมากกว่าความรู้สึก เมื่อเราต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรสักอย่างเข้ามา
ความรู้สึกสามารถนำพาเราไปสู่รายจ่ายที่มากเกินไปได้ โดยเฉพาะเวลาเงินเดือนออก เราจะใช้จ่ายตามอารมณ์มากกว่าเหตุผล
วิธีการง่าย ๆ คงเป็นการอดกลั้นความรู้สึกของตัวเอง ลองใช้เหตุผลมากกว่าความรู้สึก เมื่อเราต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรสักอย่างเข้ามา
4. หาช่องทางรายได้ให้มากขึ้น
มันอาจจะเร็วไปหน่อย หากเราเพิ่งเริ่มต้นเส้นทางของการเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้วต้องการหาช่องทางรายได้เพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น มันจะดีมากหากเราใช้ความสามารถเพิ่มรายได้ของเรา เช่นการทำจ๊อบเสริมหรืองานเสริมอื่น ๆ นอกเหนือจากงานประจำของเรา
เมื่ออนาคตเราเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ได้เงินเดือนเยอะขึ้น การลงทุนก็เป็นช่องทางที่ดีทางหนึ่ง เพราะฉะนั้น ศึกษาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะไม่ว่าเราจะทำอะไร เป้าหมายคือการเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เสมอ
เมื่ออนาคตเราเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ได้เงินเดือนเยอะขึ้น การลงทุนก็เป็นช่องทางที่ดีทางหนึ่ง เพราะฉะนั้น ศึกษาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะไม่ว่าเราจะทำอะไร เป้าหมายคือการเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เสมอ
5. โฟกัสไปที่อนาคต
การบริหารการเงินที่ดี ต้องมีวินัยและความรับผิดชอบอย่างมาก เพราะถ้าหากขาดสองสิ่งนี้ไป ลูปนรกมันจะกลับมา
หลายคนหาทางที่เร็วที่สุดในการออกจากลูปนรกนี้ มันเป็นไปไม่ได้ เพราะจริง ๆ แล้ว ความสำเร็จมันต้องใช้เวลาและอนาคตก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
เรียนรู้ที่จะมองไปในอนาคต หากอนาคตไม่แน่นอน ลองคาดการณ์ดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วเราจะเป็นคนหนึ่งที่อยู่รอด
หลายคนหาทางที่เร็วที่สุดในการออกจากลูปนรกนี้ มันเป็นไปไม่ได้ เพราะจริง ๆ แล้ว ความสำเร็จมันต้องใช้เวลาและอนาคตก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
เรียนรู้ที่จะมองไปในอนาคต หากอนาคตไม่แน่นอน ลองคาดการณ์ดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วเราจะเป็นคนหนึ่งที่อยู่รอด
6.พยายามพุ่งให้ถึงเป้าหมาย
เมื่อเราเริ่มทำอะไรอย่างจริงจัง แน่นอนว่าความสำเร็จจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่หลายคนที่มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมแต่กลับล้มไม่เป็นท่าก็มีเช่นกัน
เพราะฉะนั้น ความมุ่งมั่นอย่างเดียวมันไม่เพียงพอ เราต้องมีวินัย มีความซื่อสัตย์และความพยายาม หากอะไรที่มันเวิร์ค เก็บมันไว้ อะไรที่ไม่ใช่ โยนมันทั้งไป เพื่อให้เราสามารถพุ่งเข้าหาเป้าหมายได้อย่างเต็มที่
เพราะฉะนั้น ความมุ่งมั่นอย่างเดียวมันไม่เพียงพอ เราต้องมีวินัย มีความซื่อสัตย์และความพยายาม หากอะไรที่มันเวิร์ค เก็บมันไว้ อะไรที่ไม่ใช่ โยนมันทั้งไป เพื่อให้เราสามารถพุ่งเข้าหาเป้าหมายได้อย่างเต็มที่
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ 7D